ลักษณะทั่วไปของพิลังกาสา

ชื่อวิทยาศาสตร์(Scientific name) :   Ardisia polycephala  Wall.
ชื่อสามัญ (Common name) : Ardisia Polycephala
ชื่อเรียกอื่น (Other names) : ผักจำ, ผักจ้ำแดง, ตีนจำ, ลังพิสา, ทุรังกาสา,พิลังกาสา และ ตาปลา
ชื่อวงศ์ (Family name) :   MYRSINACEAE
ลักษณะ(Characteristics)  : ต้นพิลังกาสา เป็นไม้ยืนต้นขนาดย่อม มีความสูงของต้นประมาณ 2-3 เมตร
ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขาออกรอบต้น แต่ไม่มากนัก ใบพิลังกาสา ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกันเป็นคู่ ๆ
ตามข้อต้น ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ส่วนขอบใบเรียบไม่มีจัก แผ่นใบเป็นสีเขียวมัน 

มีลักษณะหนาและใหญ่ ส่วนยอดอ่อนเป็นสีแดง ดอกพิลังกาสา ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่งหรือ
ตามส่วนของยอด ดอกเป็นสีเหลืองนวล
,สีชมพูอมขาว หรือสีขาวแกมชมพูเมื่อดอกบานเต็มที่จะมี 5 แฉก
คล้ายรูปดาว ผลพิลังกาสา ผลมีลักษณะกลมโต มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ
0.5 เซนติเมตร
ออกผลเป็นกระจุกมีก้านช่อยาวห้อยย้อยลง และก้านผลยาวเรียงสลับรอบก้านช่อ ผลอ่อนเป็นสีแดง 

เมื่อแก่หรือสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำ
การกระจายพันธุ์ ( Distribution) : มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด
พบพรรณไม้ชนิดนี้ได้ตามป่าราบและพบได้ตามป่าโปร่ง ป่าดิบเขาทั่วไป ที่ราบสูง
ประโยชน์ (Uses and Utilization) : ต้นพิลังกาสาเป็นที่นิยมในการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับตามสถานที่ราชการหรือตามสวนสาธารณะทั่วไป เพาะปลูกได้ง่าย อีกทั้งดอกยังมีความสวยงามและออกดอกเป็นกลุ่มใหญ่
ผลอ่อน ใบอ่อน ยอดอ่อนมีรสชาติฝาดมัน เปรี้ยวอมหวาน ใช้รับประทานเป็นผักเหนาะได้
สรรพคุณ (Medicinal uses) : ผล มีรสร้อน ฝาด  สุขุม มีสรรพคุณแก้ไข้ แก้ท้องเสีย ใบ มีรสเฝื่อน แก้ตับ
และปอดพิการ ดอก มีรสเฝื่อนขมเมา ฆ่าเชื้อโรค ราก มีรสเฝื่อนแก้กามโรค แก้โรคหนองใน และแก้ลมเป็นพิษ ต้น มีรสเฝื่อนเมา ปรุงผสมกับสมุนไพรอื่นแก้โรคเรื้อน ฆ่าพยาธิที่ผิวหนัง

แหล่งอ้างอิง (References) : หนังสือฐานข้อมูลคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี,
ผักพื้นบ้านในประเทศไทย,กรมส่งเสริมการเกษตร.พิลังกาสา”.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก:AntioxidativeThaiVegetable/. (๒๘ ต.ค. ๒๕๖๐).

ความคิดเห็น